มิรานจากธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวว่านโยบายจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเติบโตของสเตเบิลคอยน์ที่อาจมีมูลค่าแตะถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์

ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ สตีเฟน มิราน เน้นความจำเป็นที่นโยบายการเงินต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของสเตเบิลคอยน์ โดยคาดการณ์ว่าการใช้งานอาจสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 ในคำปราศรัยที่มอบเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2025 ณ การประชุม BCVC Summit ในนิวยอร์ก ผู้ว่าการได้อ้างถึงการประมาณการภายในของเจ้าหน้าที่เฟดที่ระบุว่าสเตเบิลคอยน์อาจมีส่วนแบ่งที่สำคัญในการตอบสนองความต้องการตั๋วคลัง ด้วยจำนวนตั๋วคลังที่คงค้างอยู่ในปัจจุบันต่ำกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ กระแสเงินทุนจากผู้ออกสเตเบิลคอยน์อย่าง Tether และ Circle ที่อยู่ระหว่าง 1–3 ล้านล้านดอลลาร์ อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการระดมทุนและการดำเนินการในตลาดเปิด

มิราน ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า พระราชบัญญัติ GENIUS ที่เพิ่งบังคับใช้นั้นได้วางกรอบการกำกับดูแลสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐชนิด stablecoins แต่ยังไม่อนุมัติให้ได้ผลตอบแทนโดยตรง ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้งานจากต่างประเทศอาจขับเคลื่อนความต้องการ stablecoins ในฐานะเครื่องมืออออมเงิน และการไหลเวียนของดอลลาร์ทั่วโลกอาจถูกเปลี่ยนทิศทาง ผู้ว่าการกล่าวว่าธนาคารกลางจะต้องพิจารณาความต้องการที่ขับเคลื่อนด้วย stablecoinในการกำหนดอัตรานโยบาย ภายใต้ภารกิจคู่ของเฟดในการรักษาเสถียรภาพราคาและการจ้างงานสูงสุด ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากกระแสเงินทุนเข้ามาใน stablecoins อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในการส่งออกและพลวัตของเงินเฟ้อ

คำปราศรัยย้ำถึงบทบาทของ stablecoins ในการเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของการเงินดิจิทัล ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งเงินกลับไปยังประเทศต้นทาง การชำระเงินข้ามพรมแดน และการซื้อขายบนเครือข่ายบล็อกเชน มิรานเน้นถึงความจำเป็นในการ “รีบูท” โครงสร้างพื้นฐานการเงินของสหรัฐฯ โดยระบุว่า stablecoins อาจเสริมประสิทธิภาพเครือข่ายธนาคารแบบดั้งเดิม การปรับนโยบายอาจรวมถึงกรอบสินทรัพย์ค้ำประกันที่ปรับปรุง การรวบรวมข้อมูลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการประสานงานกับหน่วยงานกำกับดูแลระดับนานาชาติ เพื่อเฝ้าระวังการไหลของโทเค็นที่ผูกกับดอลลาร์ ในขณะที่สภานิติบัญญัติและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกประเมินกรอบ stablecoin การดำเนินการของเฟดจะมีบทบาทในการบูรณาการเครื่องมือดอลลาร์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินโดยรวม